Colubrina asiatica (L.) Brongn.

วงศ์ RHAMNACEAE

​ไม้พุ่มหรือไม้รอเลื้อย แตกกิ่งมาก ไม่มีหนาม ใบเดี่ยว เรียงเวียน รูปไข่ ปลายแหลมหรือเรียวแหลม ปลายสุดทู่ โคนตัดหรือมน ขอบจักฟันเลื่อยหรือจักฟันเลื่อยปนหยักมน ช่อดอกสั้นแบบช่อแยกแขนง ช่อย่อยแบบช่อกระจุก ออกที่ซอกใบ ดอกเล็กสีเขียวอ่อน มีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกเพศผู้ในช่อเดียวกัน กลีบเลี้ยงโคนเชื่อมกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก รูปสามเหลี่ยม มีจานฐานดอกเป็นวงเต็มถ้วย กลีบดอก 5 กลีบแยกกันรูปคุ่มแคบ มีก้านกลีบ ติดที่ปากถ้วยสลับกับแฉกกลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้ 5 อัน รังไข่เหนือวงกลีบ ก้านยอดเกสรเพศเมียและยอดเกสรเพศเมียมี 3 อัน ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปไข่ปลายมน มีส่วนโคนกลีบเลี้ยงหุ้มอยู่ที่โคนผล มี 3 พู ผลแตกเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนมี 1 เมล็ด

​ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์ เป็นผลระหว่างเดือนมีนาคมถึงเมษายน

Tylophora indica (Burm. f.) Merr.

วงศ์ ASCLEPIADACEAE

ชื่ออื่นๆ: ขุนพูน (นครพนม) เถาหนัง (สุราษฎร์ธานี) ท้าวพันราก หน่วยไส้เดือน (ชุมพร)

​ไม้เถาล้มลุก ทุกส่วนมียางขาว เถาผอมยาวแยกแขนง ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม มีรูปร่างและขนาดแปรผันค่อนข้างมาก รูปไข่ รูปรี รูปขอบขนานแกมรูปรี หรือรูปไข่แกมรูปใบหอก ขนาด 3.9-5 x 1.5-6 เซนติเมตร แผ่นใบบาง ช่อดอกมีดอกดก เป็นพวงคล้ายช่อซี่ร่มแยกแขนง ออกตามซอกใบของกิ่งอ่อนเกือบทุกข้อ ก้านช่อดอกยาว ก้านดอกผอม ดอกสีเขียวอ่อนหรือสีนวล กลางดอกมักจะมีสีชมพูอมแดงหรือสีม่วงแดง เส้นผ่านศูนย์กลางดอกบานประมาณ 1 เซนติเมตร กะบังรอบค่อนข้างกลม สีเหลืองนวลหรือสีชมพูอมแดง ผลออกเป็นคู่ รูปทรงกระบอก ปลายเรียว ขนาดประมาณ 5 x 0.5 เซนติเมตร เมล็ดมีจำนวนมาก ปลายด้านหนึ่งมีขนยาวเป็นพู่

​ออกดอกและผลช่วงเดือนพฤษภาคมถึงพฤศจิกายน